วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

วัดพระธาตุดอยกองมู

                ตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมชื่อ "วัดปลายดอย" เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญ ประกอบไปด้วยพระธาตุเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญ 2 องค์ และวิหารพระศิลปะไทใหญ่ เจดีย์องค์พี่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2403 โดยจองต่องสู่ พ่อค้าชาวไต ภายในบรรจุพระธาตุของพระมหาโมคคัลลานะเถระ ซึ่งอัญเชิญมาจากพม่า ส่วนองค์น้องสร้างโดยพญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนท่านแรก ฐานเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดปางต่าง ๆ เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาช้านาน นอกจากกราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว ยังสามารถชมวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอนในมุมสูงที่สุด นับว่าเป็นภาพที่สวยงดงามมากเลยทีเดียว          



ปางอุ๋ง

           เดิมทีเคยเป็นสถานที่ปลูกฝิ่นของชาวเขา ต่อมาได้รับการพัฒนาตามทฤษฎีสวนแบบปางอุ๋ง จนกลายมาเป็น "สวรรค์บนดิน" อันอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชสมุนไพร พันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวหลากหลายสีสัน ตลอดจนดงสนสองใบที่เติบโตเรียงรายตลอดแนวอ่างเก็บน้ำปางตอง ที่ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเก็บภาพประทับใจ ยิ่งในยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านทิวสนลงมาเป็นลำ ๆ จะช่วยเพิ่มความงดงามและความโรแมนติกมากยิ่งขึ้นสมชื่อสวรรค์บนดินเสียจริง ๆ จึงไม่แปลกใจที่ถูกนำไปเป็นฉากประทับใจในหนังหลาย ๆ เรื่อง สภาพอากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งโดยเฉพาะในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามาเก็บบรรยากาศความโรแมนติกและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงามที่มีไอหมอกลอยอยู่เหนือทะเลสาบกันแห่งนี้กันอย่างมีความสุข



ภูโคลน คันทรีคลับ

                หากเที่ยวกันจนเมื่อยแล้วก็อยากชวนให้แวะมาดูแลสุขภาพกันสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นนวดกระชับผิว แช่น้ำแร่ พอกโคลน อบซาวน่า ที่ "ภูโคลน คันทรีคลับ" ณ โป่งเดือดแม่สะงาแห่งนี้ โคลนของที่นี่เขาไม่ธรรมดา เพราะได้รับการจัดอันดับให้เป็นแหล่งโคลนสุขภาพของเมืองไทย และเป็นแหล่งโคลน 1 ใน 3 แหล่ง ของโลกที่มีแร่ธาตุหลักที่เหมือนกันรองจากทะเลสาบเดดซี และโคลนภูเขาไฟจากประเทศโรมาเนีย จากโครงการ Unseen in Thailand และ Spa in Paradise ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเลยทีเดียวนะ โดยเป็นโคลนเดือดบริสุทธิ์สีดำที่มาจากสายน้ำแร่ใต้ดินที่สะอาด ชและไม่มีกลิ่นของกำมะถัน ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังและระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์ สามารถดูดซับสารพิษตกค้าง ล้างความมันส่วนเกินบนใบหน้า สิ่งสกปรกที่อุดตันตามผิวหนังอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวและรอบหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลความงามอีกมากมาย อาทิ โคลนผงพอกหน้า โลชั่นน้ำแร่ สบู่ภูโคลน ครีมอาบน้ำสครับ ที่มีให้คุณเลือกสรรไปประทินผิวของคุณได้ตามใจชอบ


บ้านรักไทย

               บ้านบรรยากาศสุดอบอุ่น เดิมชื่อ "บ้านแม่ออ" ชุมชนชาวจีนยูนนาน ลูกหลานทหารกองพล 93 ที่เดินทางมากจากตอนใต้ของจีนเมื่อหลาย 10 ปี ก่อน ปัจจุบันอาศัยอยู่ร่วมกันกับพี่น้องชาวไทใหญ่และชาวไทยภูเขาเผ่าอื่น ๆ โดยบรรยากาศภายในจะมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ใจกลางหมู่บ้าน และถูกรายล้อมไปด้วยบ้านดินชั้นเดียวมุงหลังคาด้วยใบตองสไตล์จีนที่ถูกดัดแปลงนำมาเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก บางหลังก็ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังได้ชมทิวทัศน์ของทิวเขาที่งดงาม ตลอดจนเพลินตาไปกับไร่ชาแบบขั้นบันไดไล่ระดับประทับใจยิ่งนัก พร้อมพักทานอาหารตำรับจีนยูนนานจานเด็ด อาทิ ขาหมู-หมั่นโถว หมูพันปี ไก่ตุ๋นยาจีน ยำใบชาสด ชาอู่หลง ชาเจียวกู่หลัน ชายอดน้ำค้าง ชาดอกเหมย และของอร่อยอีกมากมาย รับรองว่ามาแล้วจะติดใจ



อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์

                ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ บริเวณท้องที่อำเภอขุนยวมและอำเภอเมือง เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม สภาพพื้นที่เป็นป่าเขาเรียงรายสลับซับซ้อน มีภูเขาหินและหน้าผาน้อยใหญ่สูงชันในลักษณะที่แตกต่างกันและคล้ายกันหลายแห่ง นับเป็นสุดยอดน้ำตกที่สวยงามและมีความสูงมากที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน อันเป็นต้นกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์ โดยลักษณะของน้ำตกที่นี่จะมีขนาดใหญ่ เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลจากหน้าผาลงสู่หุบเขาด้านล่าง ซึ่งมีความสูงประมาณ 100 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี
                 โดยจะมีจุดชมน้ำตกอยู่ 2 แห่ง คือ ชมจากศาลาชมวิวบนยอดดอยที่ทางอุทยานฯ เตรียมไว้ให้ โดยจะเห็นน้ำตกจากระยะไกล และจะได้ยินเสียงน้ำตกที่ดังก้องกังวานไปทั่วทั้งผืนป่าที่ทำให้คุณต้องหลงใหลจนไม่อยากกลับเลยทีเดียว ส่วนอีกจุดจะใกล้ชิดกับน้ำตกมากกว่า แต่ทว่าต้องใช้เวลาและความพยายามในการเดินทางพอสมควร อีกทั้งจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยเพราะอยู่ในหุบเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าอยากสัมผัสความงามของน้ำตกแบบใกล้ ๆ อดทนเดินหน่อยคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกว่าไหมจ๊ะ




ภูชี้เพ้อ

                 ภูชี้เพ้อตั้งอยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด อำเภอขุนยวม ใกล้กับทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ ในระดับความสูง 1818 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ที่พึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเมื่อไม่นานมานี้ มีความน่าสนใจตรงที่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์และไอหมอกที่งดงามอีกแห่ง ตลอดจนมีทิวทัศน์ของขุนเขาอันสลับซับซ้อนที่สวยงาม ยิ่งเฉพาะในช่วงเวลาที่ดอกบัวตองบานคุณจะมองเห็นวิวทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอในมุมสูงที่บานเหลืองอร่ามทั่วดอย ช่างเป็นวิวที่ได้อารมณ์โรแมนติกมาก ๆ อย่างไรก็ตามบนหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอดมีบ้านพักแต่ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ มีจุดกางเต็นท์แต่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก แนะนำให้พักตามที่พักหรือกางเต็นท์บริเวณทุ่งดอกบัวตองหรือในตัวอำเภอขุนยวมจะดีกว่า และอยากแนะนำอีกว่าให้เดินทางมาด้วยรถกระบะจะสะดวกกว่ารถเก๋ง เพราะเส้นทางบางช่วงมีความลาดชันไม่สามารถขึ้นไปได้จ้า



อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

                ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก อีกทั้งยังสามารถมองเห็นดอยเชียงดาว และคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ ซึ่งทะเลหมอกที่ห้วยน้ำดังแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงดงามมาก จนได้รับการโหวตให้เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย นอกจากนี้ในช่วงปลายฤดูหนาวคุณจะได้พบกับดอกไม้ที่กำลังจะเบ่งบานนับว่าเป็นภาพที่สวยงดงามไม่สามารถหาที่ใดเปรียบได้ มากกว่านั้นอยากแนะนำให้แวะ พระตำหนักเอื้องเงิน ชมไม้เมืองหนาวหลากสีสัน หรือจะไป ดอยช้าง เพื่อดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และไป น้ำตกห้วยน้ำดัง น้ำตกแม่เย็น ให้ชุ่มฉ่ำปอดก่อนกลับบ้านกันด้วย


ดอยพุยโค

                   "ดอยพุ่ยโค" หรือ "ดอยพุย" (ภาษาท้องถิ่นของชาวกระเหรี่ยง) ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงที่ 1406 เมตร จากระดับน้ำทะเล  ห่างจากที่ว่าการอำเภอสบเมย ประมาณ 10 กิโลเมตร ดอยพุ่ยโคขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีทอง มีวิวทิวทัศน์งดงามเหนือคำบรรยาย ผสานกับความอลังการของทะเลหมอกเกือบ 360 องศา ที่นี่สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดิน ในยามค่ำคืนจะมองเห็นดวงดาวสว่างไสวกระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า สามารถเดินเท้าขึ้นมาได้ไม่ไกล ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยอดดอย ทั้งนี้อาจจะมีบางช่วงที่เป็นทางชัน แต่ถือว่าไม่ยากสำหรับนักเดินตัวยง ขึ้นไปแล้วจะหายเหนื่อยเพราะจะได้พบกับความสวยงามของทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้า ขุนเขาที่เรียงตัวสลับโทนสี จนลืมระยะทางที่เดินขึ้นมาเลยล่ะจะบอกให้ หากต้องการชมทุ่งหญ้าสีทองแนะนำให้มาช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์นะจ๊ะ
 แหล่งที่มา : http://goo.gl/QzJYgr

แหล่งที่มา : http://goo.gl/bNo4yj

1 ความคิดเห็น: